ผู้ขาย

บ้านที่อยู่อาศัย หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ท่านใช้ประกอบกิจการการค้า เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง และท่านอาจจำเป็นที่ต้องใช้บริการสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งต้องมีภาระผ่อนชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยในระยะยาว นอกเหนือจากสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต หรือสินเชื่อบุคคล ที่ท่านอาจจะมีอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย

การเปลี่ยนสถานะจากการเป็นเจ้าของ มาเป็นผู้เช่าชั่วคราว จะช่วยให้ท่านลดภาระหนี้ส่วนใหญ่ได้ทันที ช่วยปรับสถานะเครดิตบูโรของท่านให้ดีขึ้นมาก ลดภาระรายจ่ายจากการผ่อนส่งเงินต้นและดอกเบี้ยลง เปลี่ยนเป็นค่าเช่าซึ่งอาจจะใกล้เคียงกับภาระดอกเบี้ยเดิมที่เคยจ่าย และตัดปัญหาการถูกฟ้องร้อง ยึดทรัพย์ หรือการบังคับคดีเงินกู้จากสถาบันการเงิน หรือเจ้าหนี้ธุรกิจการค้าอื่นๆ รวมทั้งท่านอาจจะมีเงินสดเหลืออยู่บางส่วนที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหากิจการการค้าของท่าน หรืออาจจะนำมาใช้ลดหนี้สินอื่นที่มีภาระดอกเบี้ยสูงได้

บาท
บาท
บาท
ประเมินขั้นต้น

บ้านที่อยู่อาศัย หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ท่านใช้ประกอบกิจการการค้า เป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง และท่านอาจจำเป็นที่ต้องใช้บริการสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งต้องมีภาระผ่อนชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยในระยะยาว นอกเหนือจากสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต หรือสินเชื่อบุคคล ที่ท่านอาจจะมีอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย

การเปลี่ยนสถานะจากการเป็นเจ้าของ มาเป็นผู้เช่าชั่วคราว จะช่วยให้ท่านลดภาระหนี้ส่วนใหญ่ได้ทันที ช่วยปรับสถานะเครดิตบูโรของท่านให้ดีขึ้นมาก ลดภาระรายจ่ายจากการผ่อนส่งเงินต้นและดอกเบี้ยลง เปลี่ยนเป็นค่าเช่าซึ่งอาจจะใกล้เคียงกับภาระดอกเบี้ยเดิมที่เคยจ่าย และตัดปัญหาการถูกฟ้องร้อง ยึดทรัพย์ หรือการบังคับคดีเงินกู้จากสถาบันการเงิน หรือเจ้าหนี้ธุรกิจการค้าอื่นๆ รวมทั้งท่านอาจจะมีเงินสดเหลืออยู่บางส่วนที่สามารถนำมาใช้ในการแก้ปัญหากิจการการค้าของท่าน หรืออาจจะนำมาใช้ลดหนี้สินอื่นที่มีภาระดอกเบี้ยสูงได้

ขั้นตอนสำหรับผู้ขายฝาก

1
ทำแบบประเมินความเป็นไปได้ ในการใช้บริการเพื่อหานักลงทุนในทรัพย์สินของท่านผ่านแพลตฟอร์ม SABB ตามขั้นตอนตามลำดับ
 
2
ทำการประกาศขายฝากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวในราคาที่มีส่วนลด จากราคาประเมินหรือราคาตลาดราคาใดราคาหนึ่งที่ต่ำกว่า โดยท่านสามารถเป็นผู้กำหนดราคาขายฝากเองได้ (ผู้ขายฝากจะต้องรับได้กับราคาขายฝากซึ่งจะต่ำกว่าราคาตลาด ซึ่งราคาตลาดอาจจะไม่สามารถขายได้ทันที หรือต้องใช้เวลานานในการขายออก รวมทั้งไม่สามารถเช่าอยู่ต่อหรือซื้อคืนได้)
3
กำหนดผลตอบแทนเสมือนค่าเช่า ที่ผู้ขายจะจ่ายให้เท่ากับ 6% ของราคาขายฝาก
4

กำหนดผลตอบแทนการลงทุนเสมือนค่าเช่า โดยชำระเป็นรายปีล่วงหน้า ณ วันทำสัญญาขายฝากที่กรมที่ดิน และทุกครั้งที่ต่อสัญญาขายฝากในทุกๆปี

ในกรณีที่ท่านไม่สามารถจ่ายผลตอบแทนเสมือนค่าเช่ารายปีทั้งจำนวนได้ ในปีถัดไปที่ต่อสัญญาขายฝาก ท่านอาจจะต่อรองการชำระเงินส่วนนี้เป็นรายไตรมาส หรือรายครึ่งปี โดยจะต้องมีผู้ค้ำประกันที่จะสามารถยืนยันการจ่ายผลตอบแทนเสมือนค่าเช่าส่วนที่เหลือให้ครบหนึ่งปี ตามสัญญาขายฝากได้ ทั้งนี้จะต้องขึ้นอยู่กับความยินยอมของผู้ลงทุนซื้อฝากเป็นหลักก่อน

5
ทำสัญญาขายฝากแบบ 1 ปี ณ สำนักงานที่ดิน พร้อมทั้งทำสัญญา แนบท้ายเพิ่มเติมให้สามารถต่อสัญญาขายฝากได้ไม่เกิน 4 ครั้ง รวมระยะเวลาขายฝาก 5 ปี โดยต่อทุกๆหนึ่งปี
6
กำหนดค่าสินไถ่จากสัญญาขายฝาก 1 ปีที่ 2% จากราคาขายฝาก และเพิ่มขึ้นสะสมเมื่อต่อสัญญาขายฝากออกไป เช่น
- ไถ่ถอนในปีที่ 1 ค่าสินไถ่คือ บวกเพิ่ม 2% จากราคาขายฝาก
- ไถ่ถอนในปีที่ 2 ค่าสินไถ่คือบวกเพิ่ม 4 % จากราคาขายฝาก
- ไถ่ถอนในปีที่ 3 ค่าสินไถ่คือบวกเพิ่ม 6 % จากราคาขายฝาก
- ไถ่ถอนในปีที่ 4 ค่าสินไถ่คือบวกเพิ่ม 8 % จากราคาขายฝาก
- ไถ่ถอนในปีที่ 5 ค่าสินไถ่คือบวกเพิ่ม 10 % จากราคาขายฝาก
7
ผู้ขายฝากจะต้องเป็นผู้ชำระค่าภาษีเงินได้และค่าธรรมเนียมในการขายฝาก ณ สำนักงานที่ดิน แต่เพียงฝ่ายเดียว
รวมทั้งในกรณีไถ่ถอนการขายฝาก ผู้ขายฝากจะต้องเป็นผู้ชำระค่าภาษีเงินได้และค่าธรรมเนียมในการขายฝาก ณ สำนักงานที่ดิน แทนผู้ซื้อฝากแต่เพียง ฝ่ายเดียวด้วยเช่นกัน
8

ค่าบริการของ SABB จะแปรเปลี่ยนตามมูลค่าการขายฝาก โดยจะมีอัตราค่าบริการดังนี้

มูลค่าขายฝาก
840,000-9,999,999
10,000,000 - 19,999,999
20,000,000 ขึ้นไป
ค่าบริการ(บาท)
3%+vat
2.5%+vat
2%+vat

ทั้งนี้ทาง SABB สงวนสิทธิการคิดค่าบริการขั้นต่ำที่ 25,000 +vat บาท ในกรณีที่มูลค่าการขายฝากน้อยกว่า 840,000 บาท

โดยผู้ขายฝากจะเป็นผู้ชำระค่าบริการส่วนนี้ทั้งจำนวน

9
เอกสารในการต่อสัญญาขายฝาก ทางบริษัท SABB จะเป็นตัวกลาง ให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ทั้งสองฝ่ายโดยจะไม่คิดค่าธรรมเนียมในการต่อสัญญาขายฝากเพิ่มเติม จะมีเพียงค่าบริการเอกสารและค่าเดินทางของเจ้าหน้าที่ โดยจะคิดค่าบริการส่วนนี้ 2000 บาทจากผู้ซื้อฝากและ 3000 บาทจากผู้ขายฝาก